สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนที่ติดตามอาจารย์อ๊ะมาโดยตลอดน่ะครับ! วันนี้ผมจะมาบอกเคล็ดลับในการทำ Pitch Deck เพื่อที่เราจะนำไปคุยกับนักลงทุนว่าควรจะมีองค์ประกอบอะไรบ้าง? ถ้าพร้อมแล้วไปดูรายละเอียดในบทความนี้กันได้เลยครับ! ปล. ท่านใดอ่านจบขอให้ช่วยแชร์กันคนละ 1 แชร์ไปยังเพื่อนๆ นักธุรกิจด้วยกันน่ะครับ!!! (***ข้อสุดท้ายสำคัญสุดครับ!) ขอบพระคุณมากครับ อ.อ๊ะ 31/05/2567
การสร้าง Pitch Deck ที่มีประสิทธิภาพและสามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับสตาร์ทอัพที่ต้องการระดมทุน เพื่อให้นักลงทุนเห็นถึงศักยภาพและโอกาสของธุรกิจเราในอนาคต บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนและเทคนิคในการสร้าง Pitch Deck ที่สามารถทำให้นักลงทุนประทับใจและมั่นใจในธุรกิจของคุณ
1. เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่อง (Storytelling)
การเริ่มต้นด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจสามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้ดี คุณควรเล่าเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่คุณพบเจอและวิธีที่ธุรกิจของคุณสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ เรื่องราวควรมีความน่าสนใจและสามารถเชื่อมโยงกับอารมณ์ของผู้ฟังได้ การเล่าเรื่องที่ดีจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความเข้าใจในวิสัยทัศน์ของคุณ การมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์จริงของคุณจะทำให้ Pitch Deck ของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
2. แสดงให้เห็นถึงปัญหาและโอกาส (Problem & Opportunity)
ในส่วนนี้ คุณควรอธิบายปัญหาที่คุณกำลังแก้ไขให้ชัดเจน พร้อมกับแสดงถึงโอกาสทางธุรกิจที่เกิดจากการแก้ไขปัญหานั้น โดยใช้ข้อมูลและสถิติที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้นักลงทุนเห็นถึงความสำคัญของปัญหาและโอกาสที่มีอยู่ การแสดงข้อมูลที่น่าเชื่อถือจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ Pitch Deck ของคุณ นอกจากนี้ยังควรเน้นถึงความสำคัญของปัญหาและผลกระทบที่มีต่อผู้ใช้หรือกลุ่มเป้าหมาย
3. นำเสนอแนวทางแก้ไข (Solution)
อธิบายว่าแนวทางแก้ไขของคุณคืออะไร และทำไมมันถึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหานั้น การนำเสนอควรชัดเจนและตรงประเด็น ใช้ภาพประกอบหรือวิดีโอเพื่อช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ คุณควรแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมีความแตกต่างและมีคุณค่าอย่างไร การแสดงตัวอย่างหรือกรณีศึกษาที่พิสูจน์ความสำเร็จของแนวทางแก้ไขจะช่วยให้นักลงทุนมั่นใจในศักยภาพของคุณ
4. โมเดลธุรกิจ (Business Model)
นักลงทุนต้องการเห็นว่าโมเดลธุรกิจของคุณทำงานอย่างไร คุณควรอธิบายเกี่ยวกับวิธีการสร้างรายได้ (Revenue Model) ใครเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และกลยุทธ์ในการเข้าถึงลูกค้า การอธิบายให้เข้าใจง่ายและชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญ การมีโมเดลธุรกิจที่มั่นคงและมีศักยภาพจะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ การแสดงแผนผังหรือโครงสร้างของโมเดลธุรกิจจะช่วยให้การอธิบายชัดเจนยิ่งขึ้น
5. ขนาดของตลาด (Market Size)
การประเมินขนาดของตลาดที่ธุรกิจของคุณจะเข้าถึงเป็นข้อมูลสำคัญที่นักลงทุนต้องการทราบ ควรใช้ข้อมูลสถิติและการวิเคราะห์ตลาดที่เชื่อถือได้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ การแสดงให้เห็นถึงตลาดที่มีศักยภาพจะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการลงทุน การใช้แผนภูมิหรือกราฟแสดงขนาดตลาดและแนวโน้มการเติบโตจะช่วยให้ข้อมูลดูน่าเชื่อถือ
6. การแข่งขันและความได้เปรียบ (Competition & Competitive Advantage)
แสดงให้เห็นว่าคู่แข่งของคุณคือใคร และธุรกิจของคุณมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่างไร การเน้นถึงนวัตกรรมหรือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณแตกต่างจากคู่แข่งจะช่วยให้ Pitch Deck ของคุณโดดเด่นขึ้น การมีความได้เปรียบทางการแข่งขันจะช่วยให้นักลงทุนมั่นใจในศักยภาพของธุรกิจ การเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตารางหรือกราฟจะช่วยให้เห็นภาพชัดเจน
7. การนำเสนอทีมงาน (Team)
นักลงทุนมักจะสนใจทีมงานที่อยู่เบื้องหลังธุรกิจ คุณควรแนะนำทีมงานของคุณ พร้อมกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแต่ละคน เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจว่าทีมของคุณมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจไปข้างหน้า การมีทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความสามารถจะเป็นจุดแข็งในการนำเสนอ การแสดงภาพและโปรไฟล์ของสมาชิกทีมจะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ
8. การคาดการณ์ทางการเงิน (Financial Projections)
แสดงการคาดการณ์ทางการเงินในอนาคต รวมถึงรายได้ กำไร และค่าใช้จ่ายต่างๆ ควรมีการอธิบายถึงสมมุติฐานที่ใช้ในการคาดการณ์ เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจและมั่นใจในความเป็นไปได้ของข้อมูล การคาดการณ์ที่มีความน่าเชื่อถือจะช่วยให้นักลงทุนมองเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ การแสดงตัวเลขในรูปแบบตารางหรือกราฟจะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น
9. ข้อเสนอการลงทุน (Investment Ask)
ในส่วนนี้ คุณควรระบุจำนวนเงินที่ต้องการระดมทุน พร้อมกับการใช้งานเงินทุนที่จะได้มา เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การขยายตลาด หรือการเพิ่มทีมงาน การอธิบายให้ชัดเจนจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจและพิจารณาการลงทุนได้ง่ายขึ้น การมีข้อเสนอที่ชัดเจนและมีแผนการใช้งานเงินทุนที่เป็นรูปธรรมจะช่วยให้นักลงทุนมั่นใจในการลงทุน
10. สรุปและเรียกร้องให้ดำเนินการ (Conclusion & Call to Action)
สรุปข้อมูลสำคัญทั้งหมด และเรียกร้องให้นักลงทุนดำเนินการต่อ เช่น การนัดพบเพื่อพูดคุยเพิ่มเติม หรือการเข้าร่วมในรอบการระดมทุน การมีการเรียกร้องให้ดำเนินการจะช่วยให้ Pitch Deck ของคุณเป็นที่จดจำและน่าสนใจมากขึ้น การปิดท้ายด้วยการเรียกร้องให้ดำเนินการจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุน
***การสร้าง Pitch Deck ที่ดีต้องใช้เวลาและความพยายามในการเตรียมตัว แต่หากทำได้ดี คุณจะมีโอกาสสูงในการดึงดูดนักลงทุนและนำธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ? สำหรับบทความที่เข้มข้นวันนี้ กับ 10 ขั้นตอนการสร้าง Pitch Deck ที่สามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุน-โดย อาจารย์อ๊ะ ที่ปรึกษา Startup สำหรับ SME อย่าลืมติดตามผมได้ทั้ง Facebook ชื่อเพจ อาจารย์อ๊ะ ที่ปรึกษา Startup สำหรับ SME
และช่องทาง Tiktok ชื่อช่อง อาจารย์อ๊ะ-ที่ปรึกษา Startup
https://www.tiktok.com/@ajarnah
และถ้าเพื่อนๆ ไม่ต้องการพลาดข่าวสาร Update ดีๆ จากผม แนะนำให้ แอด เพิ่มเพื่อนไว้ที่ Line ของผม @ajarnah น่ะครับ
#อาจารย์อ๊ะ
#อาจารย์อ๊ะที่ปรึกษาStartupสำหรับSME
#อาจารย์อ๊ะสอนธุรกิจให้คิดแบบStartup
#อาจารย์อ๊ะสอนพูดเพื่อPitchพิชิตกรรมการ
#ที่หนึ่งในเรื่องของที่ปรึกษาStartupสำหรับSME
#สตาร์ทอัพต้องเริ่มต้นที่Mindsetที่ถูกต้องก่อน
#TheRightMindsetTheRightStartup
#ThePrinceOfStartup
#PitchingMasterClassGroup
#PitchingMasterClassGroupbyAjarnAh
#PMGGroup
#PMG
✅ แอดไลน์(Line) เพื่อพูดคุยและรับความรู้ธุรกิจฟรี! ได้ที่! ไลน์ไอดีพิมพ์หา @ajarnah
หรือกดที่ลิงค์นี้ 👇
https://line.me/R/ti/p/@ajarnah
www.ajarnah.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น