มาถึงเหตุผลที่ 10 เหตุผลสุดท้ายกันแล้วน่ะครับ! สำหรับบทความนี้ที่ถือว่าเป็นซี่รีย์ที่ยาวถึง 9 ตอนทีเดียว(ใครที่เพิ่งอ่านมาตอนจบตอนนี้ ผมแนะนำว่าให้ลองย้อนกลับไปอ่านบทความนี้ตั้งแต่ตอนที่ 1-8 ด้วยน่ะครับเพราะจะได้มีเนื้อหาครบรสและต่อเนื่องไม่เป็น(Piece by Piece) กล่าวคือ "การเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ก็ตามเราควรที่จะเรียนรู้ในภาพรวมทั้งหมดก่อนให้ถ่องแท้หรือเก็บเกี่ยวภาพรวมให้ได้มากที่สุด" เพราะเวลาที่เราจะลงลึกทางด้านใดก็ตามเราจะได้ไม่ถูกใครหลอกหรือถูกใครชี้นำในองค์ความรู้ใหม่ๆ ไปในทางที่ผิดเพียงเพราะเรามองภาพรวมไม่ออก! และเรื่องราวของสตาร์ทอัพ(Startup) ก็เช่นกัน ถึงบทนี้ตอนจบผมเชื่อมั่นว่า ถ้าผู้อ่านค่อยๆ อ่านบทความของผมตั้งแต่บบทความแรกๆ ก็จะเข้าใจมุมมองของสตาร์ทอัพได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนไม่มากก็น้อยขอเพียงแต่ท่านผู้อ่านลองคิดทบทวนบทความของผมว่าอันไหนที่มีประโยชน์ก็ลองนำไปปฎิบัติใช้กันดู ส่วนอันไหนที่อยากจะลองพิสูจน์ดูด้วยตัวเองก่อนที่จะเชื่อผม ผมถือว่าสิ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีและท่านผู้อ่านทุกคนจะได้ไม่ต้องเชื่ออะไรง่ายๆ โดยที่ไม่ได้มีการพิสูจน์ด้วยตัวเองจากการที่คนอื่นเล่ามาฟังคนอื่นบอกมาโดยที่เราไม่ได้เห็นหรือพิสูจน์ด้วยตัวเองเสียก่อน! เหล่านี้ผมถือว่าเป็นคุณสมบัติที่ดีของบุคคลที่จะมาทำธุรกิจสตาร์ทอัพน่ะครับ เพราะทุกอย่างคือการทดลองการทดสอบสมมุติฐานและประเมินผลลัพธ์อย่างเป็นกลางจนมีผู้กล่าวไว้ว่า สตาร์ทอัพ(Startup) คือ Experiment หรือ การทดลองนั่นเอง! ซึ่งมันเป็นวิทยาศาสตร์ไม่ใช่การใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำแต่อย่างใด ดังนั้น ในตอนจบนี้ผมจะพูดถึงเหตุผลสุดท้ายที่คนชอบทำธุรกิจด้วยแนวคิดของ Startup กันโดยเหตุผลที่ว่านั้นคือ.......
เหตุผลที่ 10: อยากทำสตาร์ทอัพเพราะต้องการที่จะรวยเร็ว! จริงหรือไม่?
เหตุผลสนับสนุน: เราปฎิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่เป็นสตาร์ทอัพที่อดีตที่เติบโตมาในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี กลับมีมูลค่าของบริษัทที่ขึ้นแซงหน้าติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก เช่น เฟสบุ๊ค, Uber, Google, Micosoft, SpaceX, แซงหน้าธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจมาหลายสิบปีหรือร่วมจะร้อยปีของธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจที่เป็นรูปแบบดั้งเดิม(Traditional) ในกลุ่มของอาหารเครื่องดื่ม, เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือในอุตสาหกรรมยานยนต์โดยท่านผู้อ่านลองหาข้อมูลในการจัดอันดับมูลค่าแบรนด์ระดับโลกดูจากทุกสำนักเราก็จะพบข้อสรุปที่เหมือนกันคือใน TOP 10 อันดับแรกจะต้องมีบริษัทที่อดีตเคยมีแนวคิดการก่อตั้งเป็นธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ (Startup) ติดอยู่ใน TOP 5 ทั้งสิ้น จึงอาจทำให้คนที่จะทำธุรกิจสตาร์ทอัพรุ่นหลังๆ ที่อยากจะทำธุรกิจสตาร์ทอัพเพราะ "ต้องการที่จะรวยเร็ว" อย่างเลี่ยงไม่ได้อยู่ในจิตสำนึกของผู้ที่อยากทำธุรกิจสตาร์ทอัพจริงหรือไม่จริง? ลองอ่านความจริงด้านล่างนี้ดูน่ะครับ!
ความจริง: ธุรกิจสตาร์ทอัพไม่ใช่เป็นธุรกิจที่รวยเร็วน่ะครับ! หลายคนเข้าใจผิดว่าถ้ากระโดดเข้ามาแล้วต้องรวยเร็วอย่างแน่นอน.....อันนี้ผมว่าเข้าใจผิดอย่าง 100% น่ะครับ เพราะ Model ของธุรกิจสตาร์ทอัพไม่ได้เกิดขึ้นมาเพื่อการรวยเร็วแต่เกิดขึ้นมาเพราะต้องการเติบโตเร็วต่างหาก...คราวนี้ผลของการเติบโตมันเลยทำให้มีกระแสเงินเข้ามาในภายหลังหรือมีคนมาขอร่วมลงทุนในภายหลังซึ่งในความเป็นจริงในการบริหารกิจการธุรกิจสตาร์ทอัพในปีแรกหรือ 1-2 ปีแรก เราอาจจะไม่มีรายได้เลยก็ได้ครับและในปีที่ 3 เราเพิ่งจะคืนทุนส่วนปีที่ 4-5 เราถึงจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็น 100% หรือ 1,000% ก็เป็นได้ดังนั้น "ถ้าใครที่เข้ามาแล้วหวังว่า ปีแรกหรือเดือนแรกๆ ต้องรวยเร็ว" ผมว่าเราขายของออนไลน์ยังจะรวยเร็วกว่าการทำสตาร์ทอัพอีกครับ ดังนั้น "จงอย่าเข้าใจผิดว่าการทำสตาร์ทอัพแล้วจะต้องรวยเร็ว เพราะคุณอาจจะไม่มีเงินเดือนให้กับตัวเองหรือไม่มีเงินเดือนให้กับทีมงานในตอนแรกด้วยซ้ำครับ" แต่อาจจะแลกเปลี่ยนเป็นจำนวนของหุ้นในบริษัทแทนซึ่งโดยธรรมชาติธุรกิจมันเป็นแบบนี้ครับแต่ถ้าเราทำไปสักระยะหนึ่งก็อาจมีนายทุนขนาดใหญ่เข้ามาขอซื้อกิจการของเราถึงวันนั้นเราค่อยกลับมาคิดว่ากลยุทธ์ที่จะออก(Exit Strategy) ของเราจะหน้าตาเป็นอย่างไร? ท่านผู้อ่านลองนึกภาพตามน่ะครับว่า ถ้ามีใครสักคนมาขอซื้อบริษัทของคุณมูลค่าหลายพันล้านเหรียญแล้วเราจะขายบริษัทให้กับคนๆ นั้นหรือไม่? ถ้าเป็นเรา......คำตอบคือ "ไม่ขายครับ" คนที่ตอบคนนั้นคือ มาร์ค ซัดเคอเบร์ค เจ้าของเฟสบุ๊ค ซึ่งตอนนั้น บริษัท Yahoo มาขอเข้าซื้อกิจการทั้งๆ ที่ ทุกคนในบริษัทเฟสบุ๊คยุให้ขายกิจการให้กับ Yahoo มีเพียง มาร์ค เท่านั้นที่บอกว่า Yahoo ประเมินมูลค่ากิจการ(Valuation) ของบริษัทเฟสบุ๊คต่ำเกินไป! ซึ่งก็เป็นจริงครับ เพียงไม่กี่ปีให้หลัง บริษัทเฟศบุ๊คก็ทะยายสู่บริษัทแสนล้านเหรียญทันที!
ดังนั้น เหตุผลที่ 10: อยากทำสตาร์ทอัพเพราะต้องการที่จะรวยเร็ว! นั้นไม่น่าจะเป็นคำตอบของบุคคลที่กระโดดเข้ามาทำธุรกิจสตาร์ทอัพในตอนแรกแต่ในความเป็นจริง การทำธุรกิจสตาร์ทอัพนั้นเน้นที่การหาวิธีที่จะมุ่งการเติบโตของจำนวนผู้ใช้อย่างรวดเร็วจนมีรายได้(Revenue Model) ที่มากพอที่จะผลักดันให้ธุรกิจเติบโตในระยะเวลาที่รวดเร็วต่างหากถ้าเรามีจำนวนผู้ใช้งานหรือจำนวนลูกค้าของเราที่มากพอหรือเป็นการขยายธุรกิจของเราไปในกลุ่มอื่นๆ โดยใช้เทคโนโลยีหรือแนวคิดของ (Growth Hacking) ในการทำการตลาดแบบต้นทุนต่ำและมุ่งขยายฐานลูกค้าออกไปอย่างรวดเร็วในแนวคิดการทำธุรกิจแบบสตาร์ทอัพ(Startup Way) นั่นเองซึ่งท่านผู้อ่านสามารถหาอ่านหลักการนี้ได้จากหนังสือของสตาร์ทอัพทั้งในประเทศและในต่างประเทศได้ทั่วไปนั่นเอง
สุดท้ายนี้ผมหวังว่า 10 เหตุผลที่คนชอบทำธุรกิจด้วยแนวคิดของ Startup บทความตอนยาวของผมนี้จะสามารถทำให้ท่านผู้อ่านทุกคนได้เห็นภาพกว้างและเหตุผลและความจริงทั้ง 2 ด้านของแนวคิดธุรกิจสตาร์ทอัพ(Startup) ที่ผมตั้งใจเขียนบทความนี้ขึ้นมาทั้ง 9 ตอนนี้ และผมเชื่อว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้มี 2 ด้านเสมอเสมือนเหรียญ 2 ด้าน ดังนั้นหน้าที่ของเราคือ "เราจะต้องรอบรู้ให้ครบทั้ง 2 ด้านให้เร็วที่สุด" และนำมันไปประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจของเราซึ่งไม่ว่า เราจะทำธุรกิจประเภทไหน ทั้งออนไลน์หรือที่มีหน้าร้านตลอดจนธุรกิจ SME ไปจนถึงธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ แนวคิดของธุรกิจสตาร์ทอัพนี้ ยังคงสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจได้เป็นอย่างดีเพราะทุกธุรกิจต้องมุ่งเน้นการเติบโตมิใช่แค่ใช้กลยุทธ์การทำกำไรแต่อย่างเดียว...แล้วพบกันใหม่ในบทความตอนใหม่ในครั้งหน้าน่ะครับ..อย่าลืมกดติดตามที่มุมบนขวาของ Website กันด้วยน่ะครับ! ขอบคุณมากครับ^^
สรุป 10 เหตุผลที่คนชอบทำธุรกิจด้วยแนวคิดของ Startup กันอีกครั้ง!!!
เหตุผลที่ 1: มันเริ่มต้นได้ง่ายเพราะมันเริ่มต้นจากไอเดียที่แก้ปัญหาให้กับผู้คน
เหตุผลที่ 2: สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีอนาคตน่าจะมีคนสนใจใช้แน่เลย
เหตุผลที่ 3: คนส่วนใหญ่คิดว่าทำสตาร์ทอัพแล้วจะสบายดูเท่ห์ไม่เหมือนใครน่าสนใจมาทำกันเถอะ!
เหตุผลที่ 4: คนส่วนใหญ่คิดว่าทำสตาร์ทอัพแล้วต้องคอยหาแหล่งทุนอยู่ร่ำไป? มีทุนที่ไหนให้ไปขอให้หมด! แถมยังเจอหน้ากันซ้ำๆ ด้วยน่ะ 555
เหตุผลที่ 5: ผม/ฉัน/หนู มีไอเดียที่เจ๋งมากเลยเพราะมันมาจาก Passion ของ ผม/ฉัน/หนู อย่างแรงกล้า
เหตุผลที่ 6: คนที่ทำธุรกิจสตาร์ทอัพส่วนใหญ่อยากเป็นผู้นำในตลาดนั้นๆ (อยากเป็นตัวจริงครับ!)
เหตุผลที่ 7: คนรุ่นใหม่(และที่เพิ่งจบใหม่) ต้องการสร้างธุรกิจเป็นของตัวเองมากขึ้น(ไม่อยากทำงานประจำ)
เหตุผลที่ 8: อยากทำสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดที่แปลกไม่มีใครทำเราอยากเป็นรายแรกๆ ที่บุกเบิกมัน!
เหตุผลที่ 9: ผมอยากทำสตาร์ทอัพที่ต่อยอดจากสิ่งที่ผมชำนาญ!
เหตุผลที่ 10: อยากทำสตาร์ทอัพเพราะต้องการที่จะรวยเร็ว! จริงหรือไม่?
หมายเหตุ: ก่อนที่จะนำแต่ละเหตุผลไปใช้งานอย่าลืมอ่านเหตุผลและความจริงในแต่ล่ะตอนให้เข้าใจกันก่อนในตอนที่ 1-8 น่ะครับ เราจะได้ไม่หลงประเด็นและรู้เท่าทันความคิดของตัวเองและความคิดของผู้อื่นเช่นกันครับ เพราะเหรียญมี 2 ด้านและรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งย่อมชนะร้อยครั้ง และผู้ที่รู้เท่าทันตัวเองจะเป็นผู้ที่ประเสริฐที่สุดครับ
-ด้วยรัก-
อาจารย์อ๊ะ-สอนธุรกิจให้คิดแบบ Startup
(The Prince Of Startup)
"ถ้าชอบบทความนี้ ขอแค่ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ผมในการเขียนบทความต่อๆ ไปก็พอแล้วครับ ส่วนใครชอบก็กดไลท์(Like) ใครใช่ก็กดแชร์(Share) ได้ครับผม^^"
See you again!
***ติดตาม อาจารย์อ๊ะได้จากช่องทางด้านล่างนี้ครับ
1. เฟสบุ๊คส่วนตัว(Facebook Profile)
2.1 เฟสบุ๊คแฟนเพจ1 (Fanpage)
***เน้นเรื่องแรงบันดาลใจ
2.2 เฟสบุ๊คแฟนเพจ2 (Fanpage)
***เน้นเรื่องการสอนธุรกิจให้คิดแบบ Startup
3. ยูทูป(YouTube)
4.อินสตาแกรม(Instagram)
5.Line@ เพื่อเป็น FC ของอาจารย์อ๊ะ(พิมพ์หา @ajarnah) มี@ ด้วย กดแอดเพิ่มเพื่อนทักมาได้เลยครับ!
ปล. ถ้าอาจารย์อ๊ะ ถ่ายทอดสด Live เฟสบุ๊ควันไหนจะแจ้ง FC ทุกท่านให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้งน่ะใน Line@ น่ะครับ แล้วพบกันครับ!
ผลงานเขียนของอาจารย์อ๊ะกับหนังสือชื่อ The Power of Positive Inspiration(แต่งเป็นภาษาอังกฤษที่คนไทยสามารถอ่านเข้าใจได้ง่าย)
กดดาวน์โหลด(Download) อ่านได้แล้ววันนี้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ!