โดย อาจารย์อ๊ะ(The Prince of Startup)
สวัสดีกันอีกครั้งสำหรับเพื่อนๆ ชาวสตาร์ทอัพ(Startup) ทุกคนในปลายเดือน พ.ย 2562 ปีนี้ สำหรับปลายปีนี้ใครที่เตรียมงาน(Pitch Desk) ไว้ Pitching ปลายปีนี้ หรือต้นปี พ.ศ 2563 หรือ ค.ศ 2020 กันบ้าง? สำหรับบทความนี้ จะเป็นบทความที่เรียกว่า อาจารย์ อ๊ะ มาเกร็งคำถามคำตอบให้กับเพื่อนๆ ชาวสตาร์ทอัพทุกคนเลย....หรือจะเรียกว่ามาเฉลยแนวทางการตอบคำถามให้กับทุกคนจะดีกว่าครับ!
เมื่อเราทำ Presentation หรือ Pitch Desk เพื่อเตรียมตัวไป Pitch งานให้กับนักลงทุนฟังเพื่อขอเงินลงทุนไม่ว่าเราจะอยู่ใน State ไหนตั้งแต่ Idea State ไปจนถึงมีลูกค้าแล้ว หรือมี Traction ที่แสดงการเติบโตอย่างหน้าสนใจแล้วและมี Killer Slide ชนิดที่ว่า "หน้านี้เป็น Slide หน้าเด็ด ที่เมื่อเปิดมาแล้วกรรมการจะต้องยอมรับใน ไอเดียของการนำเสนอเราอย่างแน่นอน 1,000 %
หยุดก่อนครับ !!!!! การนำเสนอได้ดีนั่น ผมให้สัดส่วน 60%-70% ยังเหลืออีก 30%-40% ที่ผมเทน้ำหน้าให้กับการถามตอบครับ เพราะอะไร? ......เพราะว่า "ถ้าเราตอบคำถามกรรมการได้แสดงว่าเราได้ทำการบ้านมาดีและละเอียดรู้จริงในเนื้องานของไอเดียธุรกิจของเรา..."อย่าลืมว่าเราต้องรู้ดีที่สุดรู้มากกว่ากรรมการครับ!" ยกเว้นบางเรื่องที่กรรมการรู้มากกว่าเรา เช่น ด้านเทคนิคเชิงลึก, ด้านการตลาดภาพรวม, ด้านผลตอบแทนหรือด้านแนวโน้มในอนาคต......อ้าวแล้วแบบนี้ ยังจะเหลือที่ว่างให้เราตอบคำถามได้บ้างหรือเปล่า....คำตอบคือ "มีครับแต่เราต้องตอบแบบชาญฉลาดที่สำคัญอย่าสักแต่ว่าตอบดำน้ำไปเรื่อยน่ะครับ! อะไรที่เราไม่รู้ ก็ตอบว่าอันนี้เรายังไม่มีข้อมูลและจะไปทำการบ้านมาเพิ่ม...ห้ามเถียงกรรมการเป็นอันขาด...เพราะมันจะกลายเป็นว่าเราควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ซึ่งจะมีแต่ผลเสียครับ!!!
ดังนั้น บทความนี้ผมจะมาติว "5 คำถามที่คนทำสตาร์ทอัพ(Startup) ต้องเจอเวลาที่ถูกกรรมการถามตอบ(Q&A) ตอน Pitching กันครับ"
ลุย!!! มาต่อกันครับ!!!!!
คำถามที่ 1: ใครคือลูกค้าของคุณกันแน่?
"ถ้าเจอคำถามแบบนี้แสดงว่า เราอธิบายลูกค้า(Persona) ของเราไม่ชัดเจนหรือไม่ก็หว่านลูกค้าไปทั่วใน Business Model Canvas ของเราทำให้กรรมการฟังแล้วงง สรุปใครคือลูกค้าของเรากันแน่?
วิธีการตอบ: วิธีการที่ 1 ถ้าเป็นไปได้ผมจะเสนอให้ลงแค่ลูกค้ากลุ่มเดียวแบบชัดเจนไปเลยใน Business Model Canvas ตั้งแต่การทำ Presentation แล้วเพื่อป้องกัน เวลาที่เรานำเสนอจะหลงประเด็นเอาทุกคนเป็นลูกค้าของเราเสียหมด เช่น Persona เราเป็น ผู้หญิงอายุ 25-30 ปี โสดและเป็น First Jober (เพิ่งเริ่มต้นทำงาน) มีเงินเดือน 15,000-20,000 บาท อยู่คอนโดในชานเมือง ยังไม่มีรถยนต์ขับ ไม่ชอบแต่งตัว และไม่ชอบทำอาหารเอง เป็นต้น
วิธีการที่ 2 ให้แบ่งลูกค้าของเราออกเป็นแค่ 2-3 กลุ่มพอครับอย่าให้เกิน 3 กลุ่ม โดยให้ กลุ่ม 1 คือ กลุ่มหลัก(Potential) หรือ Key Customer กลุ่ม 2 คือ รองลงมากจากกลุ่มที่ 1 กลุ่ม 3 รองมาจากกลุ่มที่ 2 โดยแบ่งสัดส่วนจากมากไปน้อยให้ชัดเจนและแจ้งว่าแต่ละกลุ่มเราจะ Focus ตอนไหนเดือนไหนปีไหน (TIP) ห้ามบอกว่า Focus พร้อมๆ กันเด็ดขาดเพราะเราเป็นสตาร์ทอัพไม่มีเวลาไปดูลูกค้าทุกกลุ่มในเวลาเดียวกันครับในการทำงานจริง
คำถามที่ 2: คุณจะหารายได้ยังไง?
"ถ้าเจอคำถามแบบนี้แสดงว่า เราอธิบาย Revenue Stream หรือ Revenue Model ของเราไม่ชัดเจนหรือไม่ก็กรรมการยังไม่ค่อยที่จะเชื่อว่าคุณจะหารายได้แบบที่คุณนำเสนอได้!!
วิธีการตอบ: วิธีการที่ 1 กรณีที่มีลูกค้าเปิดใบสั่งซื้อ PO มาให้เราแล้วให้แสดงใบ PO การสั่งซื้อให้กรรมการดูเลยครับ กรรมการท่านจะได้เชื่อและแสดงว่าเราสามารถขายของให้กับลูกค้าได้แล้ว
วิธีการที่ 2 กรณีที่ยังไม่มีลูกค้าเปิดใบสั่งซื้อ PO มา (TIP) ให้ใช้ภาพที่เราไปคุยกับลูกค้าหรืออธิบายถึงโครงสร้างรายได้โดยอธิบายว่า หลังจากที่เราได้ไปพบลูกค้าแล้ว ลูกค้ามีเงื่อนไขในการสั่งซื้อของเราคือ.........ซึ่งสอดคล้องกับโครงสร้างการได้มาของรายได้ของเราในข้างต้นซึ่งลูกค้าจะเปิด PO ให้กับเราภายในหรือหลังจาก........เป็นต้น
คำถามที่ 3: ปัญหาของคุณเป็นปัญหาของลูกค้าจริงหรือเปล่า? หรือปัญหาของคุณยังไม่ชัดน่ะ?
"ถ้าเจอคำถามแบบนี้แสดงว่า เราอธิบาย Problem หรือ Pain ของเราไม่ชัดเจนหรือไม่ก็แสดงปัญหาที่เยอะเกินไปจนกรรมการงงว่า ตกลงปัญหาไหนสำคัญที่สุด? ที่เราจะแก้มัน!
วิธีการตอบ: (TIP) ให้เราระบุปัญหาลงไปใน Slide ไม่เกิน 3 ปัญหาหรือ TOP 3 Problems โดยเรียงปัญหาขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก และพยายามเน้น ปัญหาหลักเพียงปัญหาเดียวก่อนและเล่าเรื่องให้กรรมการมั่นใจว่านี่คือปัญหาจริงๆ สมควรที่จะได้รับการเเก้ไขโดยเร่งด่วน!!!
(TIP) "จงจำไว้ว่า ปัญหาในธุรกิจสตาร์ทอัพนั่นต้องเร่งการแก้ไขด่วนแล้วทำให้เกิดการ Disrupt ด้วย Solution ของการแก้ปัญหาของเราทันที! แต่ถ้าปัญหานั่นเป็นปัญหาที่รอได้ Buiness Model นั้นๆ ก็อาจจะไม่เหมาะสมในการเลือกที่จะมาแก้ไขปัญหาดั่งกล่าว
คำถามที่ 4: ใครคือคู่แข่งของคุณ?
วิธีการตอบ: (TIP) ห้ามตอบว่า "ไม่มีคู่แข่ง" เพราะแปลว่า คุณทำการบ้านมาไม่ดีพอ!!!
แต่ให้ตอบว่า คู่แข่งทางตรงของเราคือ.........แต่เรามีจุดที่เหนือกว่าในเรื่องของ........และคู่แข่งทางอ้อมของเราคือ......ซึ่งในอนาคตเราจะมีการพัฒนาสินค้าหรือบริการของเราให้..........ทำให้ผู้เล่นรายใหม่จะไม่สามารถแย่งลูกค้าเราไปได้เพราะเรามีเทคโนโลยีหรือ Connection กับลูกค้าของเรา เป็นต้น
คำถามที่ 5: ถ้าคุณไม่ได้เงินทุนครั้งนี้คุณจะยังทำธุรกิจของคุณต่อไปหรือไม่?
วิธีการตอบ: (TIP) ทางเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจของเราต่อไปครับเพราะเป็นความมุ่งมั่นและตั้งใจของผมซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจนี้ เรามีความเชื่อว่าธุรกิจของเราจะสามารถช่วยเหลือและส่งผลกระทบให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอนครับถึงแม้ว่าเราจะผ่านหรือไม่ผ่านการนำเสนอไอเดียธุรกิจวันนี้ ทางผมมีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้ครับ
ข้อที่ 5 นี้ เทคนิคการตอบคือ ทำ+ดราม่า นิดๆ พองาม....เพราะจริงๆ กรรมการเพียงแค่จะทดสอบความมุ่งมั่นตั้งใจของเราหรือ Passion ของเราว่ามีระดับไหน? เพราะคำถามข้อนี้ ถ้าเจอใครที่ใจไม่นิ่งไม่มั่นคงพอ สีหน้าและแววตาความไม่มั่นใจจะออกมาชัดเจนเลยครับ และกรรมการเขาก็จะจำได้เช่นกัน ดังนั้น เขาก็จะให้ทีมที่มีความมั่นใจกว่าเขารอบไปนั่นเอง!
วิธีการตอบทั้ง 5 ข้อนี้ เป็นเคล็ดลับที่ไม่ค่อยมีใครกล้ามาบอกตรงๆ กันครับแต่ผมว่ามันเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวสตาร์ทอัพของผมนี่ล่ะครับ เผื่อนำไปประยุกต์ใช้งานเพื่อเป็นแนวทางในการตอบคำถามกันครับ....แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าน่ะครับ! ว่าอาจารย์อ๊ะจะนำเทคนิคอะไรในวงการสตาร์ทอัพมาอธิบายและตีแผ่ให้อีก
กับ อาจารย์อ๊ะ-สอนธุรกิจให้คิดแบบ Startup แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับผมและสามารถติดตามผมได้ที่ช่องทางด้านล่างเหล่านี้ รวมถึงสามารถเป็น FC ของผมเพื่อรับข้อมูลธุรกิจสตาร์ทอัพและแนวคิดทางธุรกิจและเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจอีกมากมายได้ที่ ไลน์ พิมพ์หา ที่ @ajarnah (มี@) แล้วพบกันครับ! "เหล่ามิตรรักแฟนคลับสตาร์ทอัพของอาจารย์อ๊ะทุกคน"
-ด้วยรัก-
อาจารย์อ๊ะ-สอนธุรกิจให้คิดแบบ Startup
(The Prince Of Startup)
"ถ้าชอบบทความนี้ ขอแค่ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้ผมในการเขียนบทความต่อๆ ไปก็พอแล้วครับ ส่วนใครชอบก็กดไลท์(Like) ใครใช่ก็กดแชร์(Share) ได้ครับผม^^"
See you again!
***ติดตาม อาจารย์อ๊ะได้จากช่องทางด้านล่างนี้ครับ
1. เฟสบุ๊คส่วนตัว(Facebook Profile)
2.1 เฟสบุ๊คแฟนเพจ1 (Fanpage)
***เน้นเรื่องแรงบันดาลใจ
2.2 เฟสบุ๊คแฟนเพจ2 (Fanpage)
***เน้นเรื่องการสอนธุรกิจให้คิดแบบ Startup
3. ยูทูป(YouTube)
4.อินสตาแกรม(Instagram)
5.Line@ เพื่อเป็น FC ของอาจารย์อ๊ะ(พิมพ์หา @ajarnah) มี@ ด้วย กดแอดเพิ่มเพื่อนทักมาได้เลยครับ!
ปล. ถ้าอาจารย์อ๊ะ ถ่ายทอดสด Live เฟสบุ๊ควันไหนจะแจ้ง FC ทุกท่านให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้งน่ะใน Line@ น่ะครับ แล้วพบกันครับ!
ผลงานเขียนของอาจารย์อ๊ะกับหนังสือชื่อ The Power of Positive Inspiration(แต่งเป็นภาษาอังกฤษที่คนไทยสามารถอ่านเข้าใจได้ง่าย)
กดดาวน์โหลด(Download) อ่านได้แล้ววันนี้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยครับ!